Table of Contents
หลายคนกินอาหารอยู่ดีๆก็มีอาการปวดแสบท้อง กินเผ็ดหรือเปรี้ยวก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกแสบร้อน ในบางรายยังมีอาการอื่นร่วมด้วยไม่ว่าจะ ท้องอืด ท้องเสียร่วมด้วย หรือ อาจจะไปแสบท้องกลางดึก ซึ่งอาการเหล่านี้จะเป็นสัญญาณเตือนเรื่องของโรคเหล่านี้
โรคกระเพาะอาหารอักเสบ
โรคกระเพาะอาหารอักเสบโดยส่วนใหญ่จะคิดว่าเกิดเพราะแผลในกระเพาะอาหารเพียงอย่างเดียวแต่จริงๆแล้ว เกิดจากการติดเชื้อเฮลิโคแบคเตอร์ไพโลไรมากที่สุด ทานอาหารไม่ตรงเวลา คนที่กินยาต้านเกร็ดเลือด ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เนื่องจากเป็นตัวเร่งให้เกิดกรด โดยอาการปวดส่วนใหญ่จะแสบร้อนท้องบริเวณด้านซ้ายส่วนบนอาจเกิดการปวดร้าวไปถึงด้านหลังได้
โรคกรดไหลย้อน
มีอาการปวดคล้ายกับโรคกระเพาะอาหารอักเสบ มักเกิดจากการทานอาหารไม่เป็นเวลา ทานดึกแล้วนอนทันที โดยมักจะมีอาการที่เพิ่มเข้ามา คือ ไอเรื้อรังไม่ทราบสาเหตุ จุกลำคอเหมือนมีอะไรติดคอ ขมคอ อาการกรดไหลย้อนหายใจไม่สะดวก คลื่นไส้อาเจียร ซึ่งหากบางรายเป็นถึงมากจนถึงขันวิตกกงวลหรือที่เรียกกันว่าแพนิคก็จะทำให้เกิดอาการหวิว ใจสั่น เหมือนจะเป็นลม
ลำไส้อักเสบเป็นแผล
ในผู้ที่มีลำไส้อักเสบจะปวดท้องน้อยด้านซ้ายมีการปวดๆหายๆ ซึ่งมักเกิดร่วมกับผู้ที่เป็นโรคกระเพาะ เป็นผลจากการมีเชื้อแบคทีเรียที่เข้าไปยังแผลซึ่งอาจเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีการปนเปื้อน ไม่สะอาด ผู้ที่เป็นลำไส้อักเสบจะมีอาการท้องเสียร่วมด้วย ซึ่งหากมีการถ่ายท้องมากควรดูแลจากการ
วิธีรักษาอาการแสบร้อนท้อง
ในการดูแลรักษาตนเองเบื้องต้นแนะนำให้
- ทานอาหารที่ย่อยได้ง่าย เช่น ปลา ไก่ ซึ่งจะย่อยได้ง่ายกว่าเนื้อที่มีไขมันเยอะอย่างเนื้อหมู เนื้อวัว
- ก่อนรับประทานควรให้อาหารที่ทานสุกก่อนเพื่อลดการรับแบคทีเรีย
- ลดการกินอาหารมันๆ เช่น อาหารที่ต้องทอด หรือ เนื้อที่ติดมัน ซึ่งจะแนะนำเป็นการทานอาหารแบบนึ่ง หรือ ต้ม จะเหมาะกว่า
- ทานอาหารให้ตรงเวลาและไม่ทานอิ่มจนเกินไป
- เคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนอย่างน้อย 20-30 วินาทีต่อคำ
สำหรับผู้ที่ต้องการทานยาสมุนไพรสำหรับผู้ที่เป็น กรดไหลย้อน กระเพาะ รวมถึงลำไส้ สามารถทานเป็น ผงกล้วยน้ำว้าดิบ และ ขมิ้นชัน เป็นที่นิยมสำหรับเป็นโรคเหล่านี้ได้เพื่อช่วยลดความทรมาน หรือ ต้องการอาการดีขึ้นเร็ว